การเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่ถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุง เพราะไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและต้นทุนในการจัดการด้วย เพราะการเลือกใช้นั่งร้านก่อสร้างที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และส่งผลต่อต้นทุนและการก่อสร้างโดยรวมด้วย
ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับรูปแบบการตั้งนั่งร้าน 9 แบบที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง พร้อมทั้งข้อดี-ข้อเสีย และการใช้งานที่เหมาะสมของนั่งร้านแต่ละประเภท รวมถึงอุปกรณ์นั่งร้านมีอะไรบ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
ทำไมต้องเข้าใจรูปแบบการตั้งนั่งร้านอย่างถูกต้อง
การเข้าใจรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่เหมาะสมนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น เพราะรูปแบบการตั้งนั่งร้านมีความสำคัญต่อโครงการก่อสร้างในหลายประการ ได้แก่
- ป้องกันอุบัติเหตุตกจากที่สูง: ทั้งจากคนงานและสิ่งของ ถือเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บในไซต์ก่อสร้าง การเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่เหมาะสมกับความสูง จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและสิ่งของร่วงหล่นได้ไม่น้อย
- ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย: ตามข้อกฎหมายไทยเกี่ยวกับมาตรฐานการติดตั้งและตรวจสอบโครงสร้างนั่งร้าน ซึ่งจะพิจารณาความเหมาะสมของรูปแบบการตั้งนั่งร้าน ตามการใช้งานและสถานที่ปฏิบัติงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: การเลือกประเภทนั่งร้านที่เหมาะสมช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น
- ช่วยลดต้นทุนและความเสียหายในอนาคต: การใช้งานนั่งร้านที่ผิดประเภท ผิดรูปแบบ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างที่กำลังทำงานและส่งผลต่องบประมาณในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นด้วย
รูปแบบการตั้งนั่งร้านตามลักษณะการใช้งาน
1. การตั้งนั่งร้านแบบ Standing
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้ จะเป็นการติดตั้งนั่งโดยให้โครงสร้างตั้งบนพื้นหรือฐานรองรับโดยตรง โดยมีเสาแนวตั้งเป็นโครงสร้างหลัก เชื่อมด้วยคานแนวนอนและการค้ำยังเพื่อความมั่นคง ตัวอย่างเช่น นั่งร้านเสาเรียงคู่ หรือนั่งร้านสูงที่พอเห็นได้ทั่วไป เหมาะกับงานที่ต้องการความสูงระดับปานกลางขึ้นไป
2. การตั้งนั่งร้านแบบ Standing on Platform
รูปแบบการตั้งนั่งร้าน Standing on Platform มีความคล้ายคลึงกับแบบ Standing แต่จะมีการติดตั้งกับพื้นแพลตฟอร์มที่มั่นคง แข็งแรง เช่น พื้นคอนกรีต หรือโครงสร้างชั่วคราวที่ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักนั่งร้านและผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ไม่เรียบ หรือมีข้อจำกัดด้านพื้นที่
3. การตั้งนั่งร้านแบบ C Hanging
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะไม่ได้เริ่มติดตั้งจากบนพื้น แต่จะเริ่มโดยการแขวนโครงสร้างจากด้านบน เช่น จากคานหรือโครงสร้างอาคาร เหมาะสำหรับงานที่ไม่สามารถติดตั้งนั่งร้านจากพื้นได้ เช่น การทำงานใต้สะพาน แต่รูปแบบการตั้งนั่งร้าน C Hanging จะต้องมีการคำนวณและติดตั้งจุดยึดของนั่งร้านให้ดี เพื่อความมั่นคงในการใช้งาน
4. การตั้งนั่งร้านแบบ D,E Standing of Material
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะเป็นการติดตั้งนั่งร้านล้อมรอบอุปกรณ์ ชิ้นงาน หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่มีความกว้างหน้าตัดไม่เกิน 2 เมตร เหมาะสำหรับการทำงานรอบชิ้นงานที่รวดเร็ว สามารถทำเสร็จในครั้งเดียว แต่ต้องระวังเรื่องของน้ำหนักโครงสร้างและจำนวนวัสดุที่เยอะกว่ารูปแบบการตั้งนั่งร้านทั่วไป และต้องมีการคำนวณพื้นที่ติดตั้งและความมั่นคงให้ดี
5. การตั้งนั่งร้านแบบ D,E Standing on Material
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะคล้ายคลึงกับรูปแบบก่อนหน้า แต่จะเหมาะกับอุปกรณ์ ชิ้นงาน หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่มีความกว้างหน้าตัดมากกว่า 2 เมตรขึ้นไป และต้องระวังเรื่องการคำนวณพื้นที่ติดตั้งและความมั่นคง และต้องมีแบบแสดงรายการคำนวณโดยวิศวกรโยธาในการรับรอง
6. การตั้งนั่งร้านแบบ F Standing and Cantilever
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะมีโครงสร้างนั่งร้านที่ยื่นออกจากโครงสร้างหลัก โดยที่ไม่มีฐานหรือเสาค้ำยันกับพื้น เพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่มีข้อจำกัดจากโครงสร้างหลัก หรือไม่สามารถตั้งฐานจากพื้นได้ โดยรูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะต้องมีการออกแบบให้สามารถรับน้ำหนักและความมั่นคงให้ดี เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ทำให้โครงสร้างล้มลงมาได้
7. การตั้งนั่งร้านแบบ G Standing Heavy Duty
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้ถูกออกแบบมาให้รับน้ำหนักได้มากกว่านั่งร้านทั่วไป เหมาะสำหรับการยกชิ้นงานหนักขึ้นที่สูง เช่น ท่อ หรือเครื่องจักรต่างๆ โดยนั่งร้านประเภทนี้ จะต้องได้รับการออกแบบและคำนวณโดยวิศวกรโยธา เพื่อให้มั่นใจว่าตัวนั่งร้านสามารถรับน้ำหนักทั้งหมดได้อย่างไม่มีปัญหา และนั่งร้านถูกติดตั้งบนพื้นที่มีความมั่นคง แข็งแรง และสามารถรับน้ำหนักทั้งหมดได้เช่นกัน
8. การตั้งนั่งร้านแบบ H Protection and Loopefall
นั่งร้านประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งโครงผ้าใบกันน้ำ หรือตาข่ายกันฝุ่นตามอาคารสำนักงานต่างๆ มีน้ำหนักโครงสร้างเบา สามารถติดตั้งได้ทุกขนาด และเคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่ต้องมีการยึดเสริมค้ายันกับโครงสร้างหลัก เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกพายุหรือลมแรงพัดใส่
9. การตั้งนั่งร้านแบบ Bali Care and Access Way
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้จะถูกติดตั้งไว้ตามพื้นดินหรือพื้นอาคารต่างๆ เพื่อใช้เป็นการกำหนดเส้นทางเดิน หรือกั้นจุดที่เป็นหลุมบ่อ พื้นที่หวงห้ามต่างๆ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย เหมาะสำหรับการควบคุมการสัญจรภายในไซต์งานต่างๆ โดยจะต้องมีการตรวจสอบความแข็งแรงของทางเดินเป็นระยะๆ และต้องระวังเรื่องลมพายุหากใช้งานในที่สูง จะต้องมีการยึดค้ำยันกับตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัย
10. การตั้งนั่งร้านแบบ Table Form
รูปแบบการตั้งนั่งร้านนี้มีรูปร่างคล้ายโต๊ะ 4 ขา มีพื้นนั่งร้านด้านบน ถูกออกแบบมาสำหรับงานเทพื้นคอนกรีต เทพื้นอาคารสูง และช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งและรื้อถอนแบบหล่อคอนกรีตในการก่อสร้างอาคาร ตัวนั่งร้านสามารถปรับแต่งขนาด ความกว้างนั่งร้านและความสูงได้ตามต้องการ สามารถติดตั้งล้อเพื่อเคลื่อนย้ายในแนวนอน หรือใช้เครนยกนั่งร้านทั้งชุดไปในจุดที่ต้องการ
ส่วนประกอบนั่งร้าน BS Standard ที่สำคัญ
ส่วนประกอบหลักของนั่งร้าน BS Standard จะประกอบไปด้วย
- ท่อเหล็กกัลวาไนซ์: ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก 48.3 มม. หนา 3.2-4.0 มม. และได้รับการรับรองมาตรฐาน BS1139-1990, BS EN39-2001
- ข้อต่อ แคลมป์และตัวล็อค: เช่น แคลมป์เป็น แคลมป์ตาย ล็อคบีม พุดล๊อค เพื่อใช้ในการยึดติดและประกอบกับส่วนอื่นๆ
- แผ่นนั่งร้าน: แผ่นนั่งร้านเหล็กชุบสังกะสี ที่มีการรับรองมาตรฐาน BS1139-1990, BS EN39-2001 หรือแผ่นไม้ที่มีการรับรองมาตรฐาน BS2482
- บันได: บันไดนั่งร้าน BS Standard ควรมีความยาวตั้งแต่ 3 – 6 เมตร
- ตีนเป็ด (Base Plate) และฐานรองรับเสา
- อุปกรณ์ความปลอดภัย:
- แผ่นปูพื้น (Platform) อลูมิเนียม กว้าง 20 ซม.
- Foot Lock Board (แผ่นกั้นเท้า)
- ตาข่าย ขนาดตาข่าย 2 x 2 ซม.
- Safety Net ขนาด 6×6 เมตร
เทคนิคการเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่เหมาะสม
การเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่เหมาะสมกับการใช้งาน และคุ้มค่าที่สุดนั้น ต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ได้แก่
- วิเคราะห์ประเภทงานก่อสร้าง: แยกระหว่างงานภายใน/ภายนอก และงานหนัก/เบา รวมถึงประเภทงานเฉพาะทาง เช่น งานในทะเล งานบนที่สูง
- พิจารณาความสูงและน้ำหนักที่ต้องรับ: เลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่สูงเพียงพอต่อการทำงาน และรองรับน้ำหนักได้เพียงพอกับจำนวนผู้ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ที่ใช้งาน
- สภาพแวดล้อมและข้อจำกัดของพื้นที่: ดูว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งหรือไม่ รวมถึงความแข็งแรงของพื้นฐาน โครงสร้างที่ยึด รวมถึงสิ่งกีดขวาง และสภาพอากาศหน้างาน
- งบประมาณและระยะเวลาใช้งาน: เปรียบเทียบระหว่างการซื้อและเช่า หากเป็นโครงการระยะสั้น และไม่มีพื้นที่ในการเก็บ การเช่านั่งร้าน BS อาจคุ้มค่ากว่า หรือหากต้องการซื้อนั่งร้านไว้ใช้งาน นั่งร้าน BS Standard มือสอง ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
- ความต้องการในการเคลื่อนย้าย: เลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่ถอดประกอบหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย เพื่อให้สะดวกต่อการทำงาน
- การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการติดตั้งและใช้งานรูปแบบการตั้งนั่งร้านแต่ละประเภทมีความมั่นคง ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนด
- การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและวิศวกร: ขอคำแนะนำสำหรับโครงการที่ซับซ้อน หรือการตรวจสอบโครงสร้างรูปแบบนั่งร้าน การคำนวณวัสดุ ความปลอดภัย รวมถึงการอบรมทีมงาน
การเลือกรูปแบบการตั้งนั่งร้านที่เหมาะสมถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการควบคุมต้นทุนในระยะยาวไม่ให้บานปลายเกินเหตุ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการติดตั้งและใช้งานจะปลอดภัย เป็นไปตามกฎหมาย และคุ้มค่าที่สุดสำหรับโครงการของคุณ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรอง เพื่อให้การติดตั้งนั่งร้านและการทำงานของเราเป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัยที่สุด
SC SCAFFOLDING&EQUIPMENT ท่อและอุปกรณ์นั่งร้าน BS STANDARD ครบจบในที่นี่ที่เดียว
บริษัท เอสซี สแคฟโฟลดิ้ง แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายท่อและอุปกรณ์นั่งร้าน BS STANDARD ทั้งมือ 1 และเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์นั่งร้านมือ 2 รายใหญ่ในประเทศไทย การันตีคุณภาพทุกชิ้น พร้อมใบเซอร์จากโรงงาน นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่านั่งร้าน BS และรับซื้อคืนนั่งร้าน BS พร้อมกับ รับติดตั้งนั่งร้าน BS และออกแบบ โดยมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
ติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
โทร: 0854467877, 021257199
Line: @thitimark
อีเมล: sc.scaffolding29@gmail.com
เปิดทำการทุกวัน 7:00-17:00 น.